วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นายทรงศัก สายเชื้อ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับนายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายธนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นางสาวชลธิชา วงษ์อุตสาห์ นายอำเภอปากท่อ นายสิริน ชาวเพ็ชรดี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นางนวรัตน์ สถาพรนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หมู่ 7 บ้านห้วยศาลา ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี พร้อมประชุมหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องกว่า 20 แห่ง ทั้งด้านการพาณิชย์ อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข การค้าภายในการค้าระหว่างประเทศ เศรษฐกิจป่าไม้ ศุลกากร การท่าเรือ การแข่งขันทางการค้า ผู้ประกอบการในห่วงโซ่ถ่านกะลามะพร้าวเผา และหน่วยงานท้องถิ่น หลังรับร้องเรียนกรณีกลุ่มทุนจีนกว้านซื้อกะลามะพร้าวเผาในราคาสูง จนผู้ประกอบการไทยขาดวัตถุดิบ และเกิดการเผากะลาเพิ่มขึ้นทำให้ชุมชนได้รับผลกระทบจากกลุ่มควัน–กลิ่นรบกวน พร้อมสั่งเร่งรวบรวมข้อเท็จจริงทุกด้านเพื่อผลักดันมาตรการแก้ไขอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
นายทรงศัก สายเชื้อ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า สืบเนื่องจาก
ผู้ประกอบการกิจการโรงงานถ่านในประเทศไทย ระบุว่า เดิมทีโรงงานถ่านในประเทศจะรับซื้อกะลามะพร้าวเผาจากชาวบ้านในราคากิโลกรัมละประมาณ 9.50 บาท เพื่อนำมาใช้ในโรงงาน แต่ต่อมากลุ่มทุนจีนเข้ามากว้านซื้อกะลาเผาในราคาที่สูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 19-20 บาท ทำให้ผู้ประกอบการไทยขาดแคลนวัตถุดิบ ต้นทุนสูงขึ้น และเสี่ยงต่อการต้องปิดกิจการ ขณะเดียวกัน ราคาที่ดีกว่า ทำให้ชาวบ้านหันมาเร่งเผากะลาเพื่อขายให้กลุ่มทุนจีนโดยตรง ส่งผลให้การเผากะลามะพร้าวเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนเกิดปัญหามลพิษทางอากาศและกลุ่มควันรบกวนชุมชนในวงกว้าง
จากการประสานงานของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จังหวัดราชบุรีได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง ได้แก่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรี สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี อำเภอปากท่อ และองค์การบริหารส่วนตำบลยางหัก โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดราชบุรี ชี้แจงว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้จัดทำแผนการตรวจสอบนอมินี ประจำปีงบประมาณ 2568 ครอบคลุมธุรกิจ 6 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ธุรกิจที่ดินอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ e-commerce ขนส่งและคลังสินค้า ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ท ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร และธุรกิจก่อสร้างทั่วไป ซึ่งมีแนวโน้มใช้คนไทยถือหุ้นแทนต่างชาติ รวม 46,918 ราย ทั่วประเทศ และได้คัดกรองธุรกิจเป้าหมายในจังหวัดราชบุรี จำนวน 58 ราย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ
ด้านสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี ระบุว่า ปัจจุบันมีโรงงานเผาถ่านจากกะลามะพร้าวที่ได้รับใบอนุญาตในการประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 จำนวน 9 โรงงาน หากพบการตั้งโรงงานหรือประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 8 พร้อมด้วยหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการเผาถ่านกะลามะพร้าวในหมู่ที่ 7 ตำบลยางหัก ซึ่งถือเป็น “แหล่งกำเนิดมลพิษ” ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม พบว่าในพื้นที่มีผู้ประกอบการประมาณ 35 ราย แต่ละรายมีเตาเผา 6–8 เตา จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงพบค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) สูงหลายจุด และมีควันไฟ–กลิ่นควันลอยปกคลุมชุมชน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวและช่วงเช้ามืดถึงค่ำ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนอย่างมาก
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว อำเภอปากท่อได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม กำกับดูแล และประเมินผลการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการเผาถ่านกะลามะพร้าวในพื้นที่ตำบลยางหัก เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันหาแนวทางลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการคุ้มครองสิทธิและการประกอบอาชีพของประชาชนในพื้นที่
นายทรงศัก กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมในวันนี้ได้ขอให้ทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมร่วมกันเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัญหากลุ่มทุนจีนกว้านซื้อกะลามะพร้าวเผาและการเผากะลาที่สร้างมลพิษ โดยต้องการให้การวิเคราะห์ปัญหาเป็นไปอย่างรอบด้าน ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ–กลางน้ำ–ปลายน้ำของกระบวนการผลิตและการส่งออก รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า กฎหมาย สิ่งแวดล้อม การส่งออก และผลกระทบต่อชุมชน เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะที่ตอบโจทย์ สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ถูกต้อง ตรงประเด็น และกำหนดแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรมที่สุด และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
--------------------------------------
ที่มา : Facebook สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี